บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2021

ท่านเจ้าคุณนรฯ ศึกษาศาสตร์พลังจิต

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เขียน/เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2564 ประวัติ ท่านเจ้าคุณนรฯ ปฐมวัย พระพระยานรรัตนราชมานิต มีนามเดิมว่า ตรึก จินตยานนท์ (นามสกุลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นบุตรของพระนรราชภักดี (ตรอง จินตยานนท์ ภายหลังบวชเป็นพระภิกษุ ฉายา สทฺธมฺมวิจาโร) และนางนรราชภักดี (พุก จินตยานนท์) มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 5 คน เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 เวลา 7.40 น. ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา และเป็นวันมาฆบูชาในปีนั้น ที่กรุงเทพมหานคร วัยถึงขั้นสมควร เล่าเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดโสมนัสวิหาร และชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรในปัจจุบัน) จนสอบได้ชั้นมัธยมปลาย 5 ได้ลำดับที่ 1 ของประเทศ ข้าราชการพลเรือน ภายหลังจากที่ท่านได้จบการศึกษาจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือน (ภายหลังคือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้ร...

สมัยพุทธกาล มีการสักการะบูชาพระเกสาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เขียน/เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2564 ตปุสสะ ภัลลิกะเป็นพ่อค้าสองพี่น้องชาวอุกกละชนบท เป็นบุตรของกฏุมพีในอสิตัญชนนคร ทั้งสองเป็นเทววาจิกอุบาสก (อ่านว่า ทฺ-เว-) ปฐมอุบาสกคู่แรกที่ยึดถือรัตนะ 2 คือถึงพระพุทธกับพระธรรม เป็นสรณะ ต่อพระพักตร์ของพระโคตมพุทธเจ้า เพราะช่วงนั้นพระพุทธเจ้ายังตรัสรู้ใหม่ๆ ยังไม่ได้ประกาศพระศาสนาและยังไม่มีพระภิกษุเลย และทรงกำลังเสวยวิมุติสุขหลังจากทรงตรัสรู้ตามที่ต่างๆในอุรุเวลาเสนานิคมเป็นเวลา 7 สัปดาห์ ตปุสสะและภัลลิกะได้รับเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าอุบาสกทั้งหลาย ผู้ถึงสรณะก่อนใคร  ในตำนานพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า หลังจากพระพุทธเจ้าทรงประทับเสวยวิมุติสุขที่ต้นมุจลินท์เป็นเวลา 7 วันแล้ว ทรงออกจากสมาธิและเสด็จดำเนินไปยัง ณ ใต้ต้นเกดหรือต้นราชายตนะ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงประทับเสวยวิมุติสุขที่ต้นราชายตนะ 7 วัน จากนั้นหลังจากพระพุ...

กลองอินทเภรี สมัยรัชกาลที่๓

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2564  กลองอินทเภรี ของพระราชวังบวรสถานมงคล  สำหรับตีให้สัญญาณในกองทัพ มีจำนวน 3 ใบขนาดลดหลั่นกัน  ที่หน้ากลองแต่ละใบเขียนยันต์ลายทอง  ลายรูปสัตว์  ลายเส้นยันต์ลงอักขระ  รูปอักษรขอม  ภาษาบาลี  จารึกบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ  คำขอชัยชนะจากพระปักเจกพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเทพเจ้า  ตลอดจนพระคาถาและหัวใจพระคาถาต่างๆ สันนิษฐานว่าทำขึ้นในคราวสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ เสด็จไปราชการทัพในรัชกาลที่ 3  [เครดิต: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและ ข้อมูลเพิ่มเติม ] เพื่อการศึกษา: ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ IYEAR ขออนุญาตนำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์ ความเก่าโบราณวัตถุ อักขระโบราณ คาถา สกุลเชิงช่าง และเทคโนโลยีการสร้าง ฯลฯ ประวัติศาสตร์ : คติ...

โฟตอน กับ สมาธิจิต

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2564   โฟตอน กับ สมาธิจิต โฟตอน (อังกฤษ: Photon) หรือ อนุภาคของแสง เป็นการพิจารณาแสงในลักษณะของอนุภาค เนื่องจากในทางฟิสิกส์นั้น คลื่นสามารถประพฤติตัวเหมือนอนุภาคเมื่ออยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่ง ซึ่งในทางตรงกันข้ามอนุภาคก็แสดงสมบัติของคลื่นได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นคุณสมบัติทวิภาคของคลื่น-อนุภาค (อังกฤษ: wave–particle duality) ดังนั้นเมื่อพิจารณาแสงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในลักษณะอนุภาค อนุภาคนั้นถูกเรียกว่า โฟตอน ทั้งนี้การพิจารณาดังกล่าวเกิดจากการศึกษาปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่โลหะปลดปล่อยอิเล็กตรอนออกมาเมื่อถูกฉายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างเช่น รังสีเอกซ์ (X-ray) อิเล็กตรอนที่ถูกปล่อยออกมาถูกเรียกว่า โฟโตอิเล็กตรอน (photoelectron) ปรากฏการณ์ดังกล่าวถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Hertz Effect ตามชื่อของผู้ค้นพบ คือ นาย ไฮน์ริช...

เจดีย์ร้าง วัดเชียงของ ใกล้ประตูเชียงใหม่

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เขียน ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564 เจดีย์ร้าง วัดเชียงของ เจดีย์ซึ่งเป็นโบราณสถาน ตั้งอยู่ระหว่างอาคารตึกแถวซึ่งสร้างชิดเข้ามาเกินขอบฐานเจดีย์ บริเวณริมถนนราชเชียงแสน ด้านหลังเป็นอาคารบ้านพักชิดขอบเช่นกัน โบราณสถานคงสภาพถึงส่วนยอด แต่ตั้งอยู่กลางอาคารที่สูงกว่า จึงรู้สึกเหมือนถูกบีบอยู่รอบด้าน ทำลายคุณค่าโบราณสถานอย่างมาก ขาดการบูรณปฏิสังขรณ์ มีสภาพทรุดโทรม แต่สำนักศิลปากรที่๗ เชียงใหม่ได้ติดประกาศสำคัญไว้แล้วดังนี้ ข้อคิด ข้ออภิปราย....ที่ผู้เขียนอยากนำเสนอคือ   ประเด็นแรก: ถ้าเราศึกษาพระเครื่องมัวแต่ฟังเรื่องเล่าจากปากผู้อื่น โดยไม่เสาะแสวงหาความจริง แล้วรู้จักเปรียบเทียบของเก่าของโบราณ ว่าพื้นผิว คราบราดำ รอยปลวก ที่เกิดโดยธรรมชาติในวัตถุโบราณ จากสถานที่จริงเป็นอย่างไร อย่างตัวอย่างจากโบราณสถานวัดเชียงของนี้เป็นตัวอย่างสำคัญเป็นโบราณสถานพยานประจักษ์แห่งหนึ่ง..เป็นพ...

พระสมเด็จกรุวัดกัลยาฯ มีจริงมั้ย?

รูปภาพ
ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR คอลัมน์ บทความพระเครื่อง ผู้เขียน ภูดิส เมธีธนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2564 สมเด็จกรุวัดกัลยาฯ   มีความเห็นแตกเป็นสองฝ่าย .....ในทรรศนะของ ผู้กว้างขวางในวงการพระเครื่อง หลายท่านให้ความเห็นโดยสรุปว่าเป็น พระปลอมเลียนแบบ ... แต่ก็ยังมีผู้ชื่นชอบ พระเครื่องเยอะจำนวนให้ความเห็นว่าเป็น พระแท้และน่าจะเป็นพระที่สมเด็จพุฒจารย์โต พรหมรังสี เป็นผู้สร้าง เมื่อความเห็นมีสองฝ่ายดั่งนี้  ผู้เขียนในฐานะ ผู้เห็นด้วยเ ชื่อว่าเป็นพระแท้ ดีนอก-งามในควรจะอภิปรายขยายความเรื่องพระสมเด็จวัดกัลยาฯ นี้ต่อผู้สนใจตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้ ด้านประวัติศาสตร์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง : วัดกัลยาฯ ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรีไม่ไกลจากวัดระฆังโฆษิตาราม ซึ่งวัดกัลยาฯ สร้างโดยคหบดีใหญ่บุคคลสำคัญในยุคนั้นคือ เจ้าพระยานิกรณ์บดินทร์(เจ้าสัวโต-ต้นตระกูลกัลยาณมิตร) เจ้าสัวเป็นพระสหายคนสนิทที่ร่วมกับล้นเกล้า ร.๓ ค้าขายกับประเทศจีนโดยแต่งสำเภา มีเรือสำเภาหลายสิ...