โฟตอน กับ สมาธิจิต




ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR
คอลัมน์ บทความพระเครื่อง
ผู้เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม
เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2564

 โฟตอน กับ สมาธิจิต

โฟตอน (อังกฤษ: Photon) หรือ อนุภาคของแสง เป็นการพิจารณาแสงในลักษณะของอนุภาค เนื่องจากในทางฟิสิกส์นั้น คลื่นสามารถประพฤติตัวเหมือนอนุภาคเมื่ออยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่ง ซึ่งในทางตรงกันข้ามอนุภาคก็แสดงสมบัติของคลื่นได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นคุณสมบัติทวิภาคของคลื่น-อนุภาค (อังกฤษ: wave–particle duality) ดังนั้นเมื่อพิจารณาแสงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในลักษณะอนุภาค อนุภาคนั้นถูกเรียกว่า โฟตอน

ทั้งนี้การพิจารณาดังกล่าวเกิดจากการศึกษาปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่โลหะปลดปล่อยอิเล็กตรอนออกมาเมื่อถูกฉายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างเช่น รังสีเอกซ์ (X-ray) อิเล็กตรอนที่ถูกปล่อยออกมาถูกเรียกว่า โฟโตอิเล็กตรอน (photoelectron) ปรากฏการณ์ดังกล่าวถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Hertz Effect ตามชื่อของผู้ค้นพบ คือ นาย ไฮน์ริช เฮิร์ตซ์

โฟตอนมีปฏิยานุภาค คือ ปฏิโฟตอน (อังกฤษ: Anti-Photon) ซึ่งมีสปินเหมือนอนุภาคต้นแบบทุกประการ โฟตอนจึงเป็นปฏิยานุภาคของตัวมันเอง [credit; จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี]


คุณสมบัติทางกายภาพ

โฟตอนปราศจากมวล, ไม่มีประจุไฟฟ้า และเสถียร โฟตอนมีสถานะโพลาไรซ์ที่เป็นไปได้สองสถานะและอธิบายได้โดยตัวแปรที่มีความต่อเนื่องสามตัว: เป็นส่วนประกอบของเวกเตอร์คลื่นซึ่งกำหนดความยาวคลื่น λ และทิศทางของการแพร่กระจายของมัน โฟตอนคือเกจโบซอนสำหรับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า และดังนั้นจำนวนควอนตัมอื่น ๆ ทั้งหมดของโฟตอน (เช่นจำนวนเลปตอน (lepton number), จำนวนแบริออน (baryon number) และจำนวนเฟลเวอร์ควอนตัม (flavour quantum numbers)) จึงเป็นศูนย์

โฟตอนจะถูกปลดปล่อยออกมาในกระบวนการทางธรรมชาติมากมาย

  • กรณีศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เกี่ยวแสงเลเซอร์ อธิบายเกี่ยวข้องกับโฟตอน คือการรวมแสงให้เป็นลำแสงจึงเกิดพลังงาน คงจะไม่ต่างกันกับผู้ฝึกสมาธิจิตที่สามารถรวมจิตไม่ให้ฟุ้งซ่านไม่มีทิศทาง ให้สงบนิ่งรวมศูนย์โดยใช้สมาธิ สติกำกับ ผู้สนใจศึกษาดูรายละเอียดเพิ่มเติม [คลิก ข้อมูล๑ / ข้อมูล๒]

ขยายความ อนุภาค คืออะไร

ถ้าดูตามคำศัพท์ แปลความได้ดังนี้ อนุ คือ น้อย เล็ก / ภาค คือ ส่วนประกอบ 

อนุภาค (Particle) - คือ สิ่งที่มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมที่เราสนใจ เช่น ในชีวิตประจำวันทั่วๆไปเราจะมองฝุ่นละอองในอากาศเป็นอนุภาคแบบหนึ่ง ในแง่ของดาราศาสตร์อนุภาคอาจจะหมายถึงสิ่งที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้เช่น ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น แต่เข้าใจว่าคำถามของจขกท.จะหมายถึงอนุภาคในเชิงฟิสิกส์ที่มีขนาดเล็กมากๆ เช่น โปรตรอน อิเล็กตรอน โดยในกลุ่มของอนุภาคพวกนี้เอง ที่ส่วนมากยอมรับกันก็จะประกอบขึ้นจากอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถแตกให้เล็กไปกว่านี้ได้เช่น (Elementary Particle) พวก ควาร์ก เล็ปตรอน โฟตอน [เครดิต; สมาชิกหมายเลข 6159117]

อนุภาคในความหมายทางฟิสิกส์ ครับ มันคือส่วนประกอบย่อยที่เล็กที่สุดของสสาร  ซึ่งไม่สามารถแบ่งแยกลงไปได้อีกแล้ว  อนุภาคในความหมายทางฟิสิกส์นี้เรียกว่า Elementary particle  หรือ Fundamental particle [เครดิต; Partita]


ขอขอบคุณ; ข้อมูลบางส่วนและภาพประกอบ เพื่อการศึกษาจาก www.pantip.com

กรณีศึกษาที่๑

"นอกจากนั้น ไอน์สไตน์ยังพบอีกว่า โฟตอนของแสงแต่ละสีจะมีพลังงานการชนไม่เท่ากัน และการชนของโฟโตอนจะไม่ใช่การชนแบบคลื่นนํ้ากระทบกำแพง แต่เหมือนการชนของลูกสนุกเกอร์ ฯลฯ" [Credit; ทพ. สม สจีรา, พระพุทธเจ้าพลิก ไอน์สไตน์พลิกโลก, หน้า๘๒, พิมพ์ครั้งที่๕, สำนักพิพม์ อมรินทร์ธรรมะ, กรุงเทพฯ, พ.ศ.๒๕๕๔  ]

กรณีศึกษาที่๒

"#นั่งสมาธิ ฟื้นฟูเซลล์ และ ปรับออร่า มนุษย์เราล้วนมีออร่ากันทุกคน ซึ่งถูกแสดง เป็นหน่วยค่าที่เรียกว่า "โฟตอน" ซึ่งเราสามารถ ใช้โฟตอน หรือ แสงในร่างกายนี้ เยียวยาตนเอง ได้ในระดับเซลล์ อะตอม และ ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเราจะใช้การทำสมาธิ ภาวนา สวดมนต์ กำหนดลงไปในร่างกายก็ได้ ในน้ำก็ได้ ในอาหารก็ได้ ก็จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ในระดับโมเลกุล เมื่อทานเข้าไปก็จะเกิด การเยียวยา การซ่อมแซม เราสามารถเดินจิต และ ใช้แสงออร่า หรือ โฟตอนนี้กันได้ทุกคน อยู่ที่ว่า เราทำสมาธิได้นานแค่ไหน และ สงบไหม การนั่งจนเกิดแสงนี้ โฟตอนนี้ จะเกิดขึ้นช่วง 7 นาทีขึ้นไป จนเราเห็นเป็นก้อนพลังงาน มวลพลังงาน ซึ่งแค่ละคนเห็นสีไม่เหมือนกัน เช่น 

ความรัก = สีชมพู

เอื้ออาทร = ชมพู เหลือง

ความซื่อสัตย์ = สีรุ้ง และ ขาวใส

จิตกุศล = ชมพู เขียว เหลือง

ถ่อมตัว สุขุม = ส้ม เขียว ม่วง

ความกล้าหาญ = ส้มแกนเหลือง

ความเมตตา กรุณา = ชมพูอ่อน เขียว เหลือง

ความจงรักภักดี​ = ฟ้า แกนขาวสว่าง

ความจริงใจ = ชมพู แกนฟ้าใส

เราสามารถขยายพลังงานนี้ไปทั่วร่างและ ทำการฟื้นฟูซ่อมแซม ด้วยการแผ่จิต เดินจิต ภาวนา และ สามารถทำให้สมอง อยู่ในระดับ คลื่น Alpha, Beta, Theta Omega ซึ่งทำให้สมองมีศักยภาพมากขึ้น ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ​มากขึ้น ไว้เดี๋ยวมาสอน การเพิ่มพลังงานโฟตอน ในตนเอง ท่านใดสนใจลงชื่อไว้นะครับ

#ด้วยรัก

#หลุยส์​ อรุณสวัสดิ์​ แชร์เป็นธรรมทาน"

กรณีศึกษาที่๓

"ในตติยฌาน เมื่อภาพนิมิตเกิดขึ้นโดยเฉพาะภาพที่เราเข้าใจมาก่อนว่าเป็นภาพที่ดี เช่นภาพพระพุทธรูป  พระพุทธองค์ ภาพพระที่เราคิดว่าเป็นพระอรหันต์ ปรากฏขึ้นมา เราก็เข้าใจว่า การเห็นเช่นนี้คือ การเห็นธรรม เห็นนิพพาน ความเข้าใจเช่นนี้ยังห่างจากความจริงมากนัก เพราะจิตที่เข้าถึงสภาวธรรมนั้น เป็นจิตที่ไม่ยึดเกาะปรุงแต่งพลังงานใด ๆ ทั้งเป็นอิสระจากขันธ์ห้า ภาพนิมิตเหล่านี้แท้จริงก็คือ พลังงานแสง พลังงานแสงก็คือ อนุภาคโฟตอน (Photon)  ที่อยู่ในวงโคจรในอะตอม การที่จิตยังยึดเกาะอนุภาคโฟตอนอยู่ แล้วจิตจะหลุดพ้นได้อย่างไร" [เครดิต-ศึกษาเพิ่มเติม]

ความเห็นผู้เรียบเรียง

  • พลังจิตสามารถเข้ากันได้ดีกับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ดังที่ได้นำเสนอแล้ว ทุกวันนี้การศึกษาเรื่องสมาธิจิตที่เป็นวิถีของศาสนาพุทธถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ พลังจิตเป็นพลังสำคัญชนิดหนึ่งในจักรวาล ดังคำสอนของพระพุทธองค์ "จิตเป็นใหญ่เป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยจิต"(ศึกษาเพิ่มเติม) แต่ก่อนที่จิตจะมีพลังนั้น เราควรต้องต้องทราบถึงวิธีการที่จะเข้าถึงการเกิดของพลังจิต ที่ทำได้เลยคือการฝึกสมาธิ แต่โครงร่างในการสร้างสมาธิจิตที่ดีนั้นควรมาจาก สัมมาทิฏฐิ คือความเห็นชอบ เป็นเบื้องต้น คิดในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ อยู่ในธรรม พูดจาสนทนาในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ อยู่ในธรรม กระทำการในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ อยู่ในธรรม ประกอบอาชีพในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ อยู่ในธรรม ฯลฯ ทุกวันนี้ ความลำบากความทุกข์ของมวลมนุษย์ ก็มาจากการดิ้นรนที่เราสร้างให้กับตัวเองทั้งนั้น การที่เรายังต้องดำเนินชีวิตและครอบครัวอยู่ในโลกิยะวิสัยก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป แต่ครั้นจะไม่ทำการงานอาชีพใดๆ ก็จะลำบากทุกข์ทางกายภาพ ครอบครัว สังคม ต้องหมั่นพิจารณาความเหมาะสมในสถานะแห่งตน ด้วยความรอบคอบ และขอให้ท่านผู้อ่านพึงมีสติพร้อม ไม่ประมาท สิ่งที่ผ่านไปแล้วแม้เสียดายเพียงใดก็กลับคืนไม่ได้ ทำได้แค่เป็นประสบการณ์บทเรียนชีวิต ว่าปัจจุบันเราควรจะกระทำการใด ถ้าสามารถประยุกต์ใช้จิต-สมาธิ มากำกับก็อาจได้ประโยชน์แล
  • พระเครื่องที่ดีนั้นต้องมีพลังจิตสถิตย์อยู่ พลังศักสิทธิ์ ซึ่งในแนวทางสมาธิจิตนั้นย่อมทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเมื่อบทราบว่าเป็นพลังงานลักษณะหนึ่งแบบแสงโฟตอน เมื่อกระทบกับจิตของผู้สวมใส่ น่าจะเกิดปฎิกริยาในทางจิต หรือถ้าสามารถเสริมพลังจิต พลังออร่าของผู้สวมใส่ได้มีมากขึ้นแล้ว ต้องมีผลต่อการขับเคลื่อน หมุนวนไปตามความเข้มข้นของพลังงานในองค์พระเครื่องกับกายทิพย์หรือพลังงานผู้สวมใส่พระเครื่องนั้นๆ ในลักษณะคล้ายพลังงานแม่เหล็ก โดยท่านปรมาจารย์ ตรี ยัมปวาย ได้ให้คำอธิบายในหนังสือไว้ว่า "xxxxx" ส่วนผู้สวมใส่ พระแท้ พระดีมีพลังจิตอิทธิคุณสถิตย์ในองค์พระนั้น ว่ามีพลังเด่นนำไปทางใด ผู้มีฐานบุญดีอยู่แล้ว ถ้าได้พระเครื่องที่ดีมีพลังงานก็น่าจะทำการใดได้ดีด้วยความราบรื่นยิ่งขึ้น ผู้มีฐานบุญน้อย ถ้าได้พระเครื่องที่ดีมีพลังงานก็น่าจะทำการใดได้ดี ยกระดับจากฐานเดิมให้ดีขึ้น ผู้มีจิต ธาตุขันธ์ อ่อนแอลง ณ ยามใด ถ้าได้พระเครื่องที่ดีมีพลังงานที่ดี อยู่คู่กับกายก็ย่อม จะได้รับการคุ้มครองจากพลังวิเศษในพระเครื่องนั้น





[ อ่านบทความอื่นๆ: สารบัญ..บทความทั้งหมด ]

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

index สารบัญ

คำนำ

25 พฤษภาคม พ.ศ. 2498.. หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร ..แสดงเนื้อทองคำให้เห็น