ทำไม? มีพระแท้-พระปลอม?




ที่มา สถาบันวิจัยพลังพระเครื่อง-ของขลังโยนกสยาม IYEAR
คอลัมน์ บทความพระเครื่อง
ผู้เขียน/เรียบเรียง ภูดิส เมธีธนธรรม
เผยแพร่ วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2564

จิตมนุษย์ ยากแท้หยั่งถึง ไม่ว่า ไทย จีน ฝรั่ง แขก? ที่ขึ้นต้น ด้วยวลี จิตมนุษย์ ยากที่จะรู้ทันนั้น เพราะเห็นความเชื่อมโยงสะท้อนถึงความเป็นไปในสังคมมนุษย์ ไม่ว่าในบ้านเมืองของเราหรือต่างประเทศ ทุกชาติทุกศาสนา

  • สันนิษฐาน: หมายถึงลงความเห็นคาดคะเนไว้ก่อน ที่นำประเด็นนี้มากล่าวในบทความนี้เพราะต้องการสื่อให้เห็นถึงหนังสือพระเครื่องทุกเล่มในประเทศไทย นับตั้งแต่สมัยท่านปรมาจารย์ ตรียัมปวายเป็นต้นมา จนถึงหนังสือพระเครื่องในประเทศไทยทุกเล่มที่ได้จัดพิมพ์ขึ้นมา ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเครื่องโบราณต่างๆ เขียนขึ้นมาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจ ผู้เขียนเหล่านั้นก็ไม่มีใครเกิดทันสมัยพระเครื่องโบราณที่สร้างไว้ ทำให้เป็นตำราที่ควรมาวิเคราะห์ตรวจสอบถึงความเที่ยง ความน่าเชื่อถือของหนังสือเหล่านั้น ในข้อดีที่มีประโยชน์คือเป็นการรวบรวมข้อมูลชั้นปฐมภูมิ ทำให้คนรุ่นหลังอย่างเราสามารถศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ได้ง่ายขึ้น แต่ ไม่ได้หมายความว่าถูกต้องทั้งหมด ดังนั้น ความรู้ต่างๆ ที่เขียนขึ้นมาในหนังสือพระเครื่องสมัยก่อนน่าจะมีข้อกังขา อาจจะเป็นการ ติดกระดุมเม็ดแรกผิดมาตั้งแต่ในหนังสือนั้นแล้ว ถึงจะเป็นเช่นนั้นดังที่เกริ่น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อครูบาอาจารย์รุ่นก่อน ท่านเหล่านั้นอาจจะไม่รู้จริงๆ ด้วยสมัยโบราณการเขียนตำราพระเครื่องต่างๆ ยังไม่มีการเขียนแบบลักษณะทางวิจัย สมัยนั้นความรู้ทางวิทยาศสาตร์ยังไม่แพร่หลาย อีกทั้งพื้นฐานและการมีส่วนร่วมจากนักวิชาการ เช่น นักวิจัย นักประวัติศาสตร์โบราณคดี นักวิทยาศาสตร์ด้านฟิสิกส์ เคมี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำราหนังสือเหล่านั้นทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่เขียนตำราส่วนมากก็เป็นผู้อยู่ในธุรกิจพระเครื่อง ในมุมของผู้เขียนขอตั้งข้อสังเกตว่า "น่าจะมีปัญหาอยู่ พอสมควร"
  • สมชาย จิตติกรยุทธนา ได้แสดงความเห็นว่า "ขนาดวงการพระเองยังบอกว่าคนนี้ถูกคนนั้นไม่ถูกจะเอาอะรัยตัดสินครับชาวบ้านอย่างเราๆ ก็อย่าไปเช่าหาเลยครับหาพระอาจารย์ปัจจุบันที่ดีๆมีเยอะไปเอามาสักองค์แล้วให้พระอาจารย์ที่เรานับถือท่านประสิทธิ์ประสาทพุทธคุณก็ใช้ได้แล้วครับไม่ต้องอวดกันว่าเช่ามาจากเซียนคนโน้นคนนี้ เพราะถ้าเช่ามาจากเซียนที่เราเช่าแล้วไปคืนเขา เขาก็ว่าไม่รับเพราะไม่ได้เช่าจากเขา ถ้าเซียนพระที่เราเช่ามาแน่จิงต้องออกใบรับรองพระจากร้านเขาว่าเช่ามาจากร้านเขาแท้แน่นอนเจ้าของร้านเขียนชื่อรับรองตัวบรรจง แล้วต้องขายร้านไหนก็ได้เพราะเรามีชื่อร้านและเจ้าของร้านเขาไปเคลีย์กันเอง ต้องเขียนให้ครบว่าพระอะรัยเช่ามาเท่ารัยเป็นบัตรแข็งเลยครับอย่าเป็นกระดาษเปล่าครับเพราะเขาจะอ้างได้ว่าเป็นแค่กระดาษเขียนขึ้นมาเองระหว่างคนเขากับร้านเท่านั้นครับ"
  • วงการพระเครื่องในประเทศไทยนี้ ต่างคนต่างอ้างว่าของตนแท้จึงเกิดการปลอมพระแบบนี้กันมากการดูเก๊แท้จึงยากมักเกิดข้อโต้แย้งกันเองเหตุเพราะสิ่งที่เรียนรู้มานั้นไม่ถูกต้องตรงกันดังจะเห็นได้จากตำหรับตำราที่ทำออกมาขายมากมายแต่มีเนื้อหาต่างกันโดยสิ้นเชิง บ้างก็อ้างอิงข้อมูลมาจากการสอบถามและคำบอกเล่าของผู้รู้ครูอาจารณ์ต่างๆสมัยนั้นแต่ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ และเพิ่มเติมสีสันเอาความคิดเห็นส่วนตัวใส่ผสมและออกหนังสือและบอกว่าแท้โดยไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างไร สิ่งที่ทำให้ความจริงแปรเปลี่ยนหรือไม่น่าถูกต้องคือการปั่นราคาฝ่ายเดียว...สูงลิบลิ่วเสียเกินจริง...แต่ไม่มีการตรวจสอบจากนักโบราณคดีหรือนักวิทยาศาสตร์เลย.... 
  • แต่ถึงกระนั้นก็ดี...“ตลาดล่าง” ตามแผงพระเครื่อง ยังมีการปล่อยเช่ากันทุกวัน โดยเฉพาะพระสมเด็จฯ วัดระฆัง สนนราคามีตั้งแต่ 100 บาท จนถึงหลักแสนบาท ด้วยเพราะคนในแผ่นดินนี้หวังจะได้เจอของแท้ กลายเป็นมีการก๊อบปี้ขึ้นใหม่มากที่สุดในประเทศนี้ แน่นอนในแผงพระเครื่อง...ต้องมีพระสมเด็จฯ ปลอมเกือบจะทุกแผง มีการปลอมทุกระดับ ตั้งแต่แบบหยาบ...หรือแบบสวยเนียนใกล้เคียงของแท้ ที่ผ่านมาคนขายพระปลอมรวยก็มีไม่ใช่น้อย แม้หนังสือพระเครื่องบางฉบับตีพิมพ์พระเครื่องปลอมแล้วรวยก็มีเยอะ อีกทั้งสถาบันประกวดพระเครื่อง ที่หวังเก็บค่าส่งประกวดพระองค์ 500 บาท หรือ 1,000 บาท จนตัวเองรวยก็มีมาก จนวันนี้กลายเป็นว่า...หาความจริงในสถาบันรับประกันพระเครื่องแท้ยาก จนเกิดความสับสนเต็มที และคงจะดำเนินเป็นไปแบบนี้เรื่อยไป ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/1703316 ปัญหาความเคลือบแคลงสงสัยในวงการพระเครื่องในประเทศของเรานี้ วุ่นวาย สับสนไปหมด
ขบวนการปลอมแปลงพระเครื่อง(พระเครื่องสมัยโบราณ)
  1. บิดเบือนของปลอมให้เป็นของแท้ สร้างพระเลียนแบบมาชุดหนึ่งลักษณะคล้าย ทำให้มีจุดเด่นที่แตกต่าง แล้วชี้ตำหนิ ปั่นลงหนังสือพระในกลุ่มตน แล้วกระจายพระเครื่องนั้นให้กับผู้ไม่รู้ กล่าวคือพระเครื่องนั้น หมดจากวัดไปแล้วและผู้ที่ได้รับพระเครื่องไปสวมใส่บูชาแล้วชีวิตดีขึ้น ก็หวงแหนพระเครื่องนั้นเป็นอย่างยิ่ง เป็นไปได้ยากมากที่ใครจะขายพระองค์นั้น ผู้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกับชีวิตก็นำไปเลี่ยมทองขึ้นคอด้วยความภูมิใจ แต่มีผู้โลภมากบางกลุ่มแกะพิมพ์คล้ายพระเครื่องที่โด่งดังนั้นและสร้างพระเครื่องให้เหมือนทางพิมพ์ทรงแล้วชี้ตำหนิที่ต้องการจะทำให้โดดเด่นเฉพาะ พระเครื่องแบบนี้จะมีความแตกต่างด้านพิมพ์ทรงชัดเจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะปลอมกลายเป็นแท้ ต่อจากนั้นก็ลงทุนจ้างหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ปั่นราคาด้วยการโฆษณาจนผู้คนหลงเชื่อว่าเป็นพระแท้ และกลายเป็นพระแท้โดยปริยาย
    • หลายปีต่อมาผู้คนรุ่นที่ได้รับพระเครื่องแท้จากมือเกจิผู้สร้าง คนรุ่นได้รับพระจากมือหลวงพ่อ หลวงปู่หมดอายุขัยพระเครื่องแท้นั้นก็ตกเป็นมรดกสู่รุ่นลูก และคนรุ่นลูกก็คิดว่าตัวเองได้พระเครื่องแท้แน่นอน จึงนำไปให้ผู้รู้ดูว่าแท้หรือไม้(ผู้รู้นั้นครองครองพระเครื่องปลอมกลายเป็นแท้โดยไม่รู้ตัวเพราะเชื่อมาตั้งแต่ต้น)...คำตอบที่ได้คือ พระแท้กลายเป็นพระปลอม...จึงมีวาทกรรม "เก๊เก่า"(เพราะดูด้วยตาเปล่าเก่ากว่า..พระที่อยู่ในความครอบครองร้านพระนั้น..พระก๊กลายเป็นพระแท้)
    • เมื่อพระแท้กลายเป็นพระปลอมแล้ว คนรุ่นหลังที่ได้รับพระจากพ่อแม่-บรรพบุรุษ(ทั้งๆที่เลี่ยมทองอย่างดี-ทำไมถึงเชื่อผู้อื่นมากกว่าบรรพบุรุษ)จึงใจตกเข้าใจตามที่ผู้รู้นั้นบอก ก็นำเลี่ยมทองออกไปขายเหลือแต่กรอบพลาสติกเก่าๆ พระแท้ก็กลายเป็นพระปลอมโดยปริยาย
    • ความเห็นผู้เขียน: คนรุ่นหลังอาจจะนำพระไปขายให้ร้านพระเครื่องนั้น ซึ่งอาจได้รับแนะนำในทางที่ไม่ถูกตั้งแต่ต้น จากผู้โลภมากขาดศีลธรรม (ผู้สร้างพระปลอมตั้งแต่ต้น)

  2. กรณีศึกษา(วางงาน): ขออนุญาต เอ่ยนาม อาจารย์ ธวัช เข็มครุฑ ผู้ล่วงลับได้กล่าวถึงประเด็นนี้เกี่ยวกับการปลอมพระเครื่องหลวงพ่อเงินวัดบางคลานและการปลอมพระสมเด็จ อีกทั้งได้ทำการขออโหสิกรรมต่อผู้ชมเกี่ยวกับการเขียนหนังสือของตนโดยให้ข้อมูลเท็จลงในหนังสือพระเครื่องหลายเล่ม [ คลิกชมคลิป ]
  3. เจตนาฉ้อฉล นำภาพพระกลุ่มตนเองทำขึ้นมาไปติดในวิหาร ในวัดที่อดีตพระเกจินั้นได้สร้างไว้แล้วและเป็นที่นิยมของมวลชน เจตนาคือ ฉ้อฉล ยัดกรุ ยัดกุฏิ ยัดวิหาร(การรวบรวมพระโบราณไม่ใช่ของง่ายเพราะพระเครื่องนั้นได้กระจายไปหมดแล้วตั้งแต่นานมาแล้ว) จากนั้นกลุ่มคนผู้มีมิจฉาทิฏฐิก็ปั่นราคา ทำการตลาดผ่านสื่อต่างๆ ในสมัยนั้นคล้ายกับข้อ 1
  4. ช้วาทกรรมฉ้อฉล ต่อจากหัวข้อ 1และข้อ2: จึงเกิดคำชวนเชื่อ เช่น เก๊เก่า เก๊ฝีมือฯลฯ เพราะถ้ามีการเปรียบเทียบอายุความเก่าและธรรมชาติที่ควรจะเป็นของพระแท้ที่กลายเป็นพระปลอมนั้นดูด้วยตาเปล่า ดูยังไงก็ดูดีกว่า แต่ด้วยเหตุจูงใจหลายอย่างมาประกอบทำให้ใช้วาทกรรมดังตัวอย่าง ทำลายพระแท้โดยปริยาย
  5. สร้างจำนวนมากแต่ปลุกเสกบางส่วน พระอริยสงฆ์เกจิหลายรูปมิได้สร้างพระเครื่องเจตนาท่านเอง แต่ลูกศิษย์ขออนุญาตสร้างท่านก็เมตตาอนุญาต ผู้ที่เคารพพระรัตนตรัยก็สร้างจำนวนเท่าไรก็ให้ท่านปลุกเสกเท่านั้นก็ถือว่าสร้างบุญสร้างกุศลสะสมเสบียงบุญให้กับชีวิตและญาติมิตรครอบครัว
    • ยังมีผู้ประมาทในพระรัตนตรัยที่มีความโลภ กระทำการสร้งพระเครื่องจำนวนมากแต่ปลุกเสกแค่บางส่วน พระเครื่องแบบนี้ถ้าผู้ใดได้รับมาแล้ว ย่อมเข้าใจว่าพระเครื่องแบบนี้เป็นพระเครื่องแท้ จึงมีคำว่า "พระเสริม" ขึ้นมาในธุรกิจพระเครื่อง

กรณีศึกษา-ขบวนการปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์มากมายทั่วอังกฤษ

ในปี ค.ศ.1696 (อายุ 54 ปี) นิวตันได้รับเชิญจากพระเจ้าชาร์ลที่ 2 ให้เข้ารับดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงกษาปณ์ กรมธนารักษ์ นิวตันตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตครั้งใหญ่ จากนักวิทยาศาสตร์เป็นนักบริหาร อย่างไรก็ตาม นิวตันได้นำทักษะและความสามารถทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ในการทำงานที่กรมธนารักษ์ ซึ่งขณะนั้นมีขบวนการปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์มากมายทั่วอังกฤษ และนิวตันก็ได้ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ตรวจเหรียญปลอม ทำให้จับผู้ปลอมแปลงได้นับร้อยราย

    ข้อเสนอแนะ: ผู้เขียนมีแนวคิดว่า ควรมีการเสวนา ปะทะสังสรรค์ตรวจสอบพระเครื่องที่สร้างในสมัยโบราณทุกประเภท โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาประกอบ ทุกวันนี้เทคโนโลนีได้พัฒนามามากแล้วการสื่อสารก็เป็นไปโดยง่ายผ่านสื่อโซเชียลมากมาย ถ้าเราสามารถมีวิธีการและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้มาประยุกต์ใช้ในการสรุปความเป็นพระแท้ ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ส่วนการตรวจพลังงานพุทธคุณนั้นก็ถือว่าเป็นการคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง



    [ อ่านบทความอื่นๆ: สารบัญ..บทความทั้งหมด ]

    ความคิดเห็น

    โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

    index สารบัญ

    คำนำ

    25 พฤษภาคม พ.ศ. 2498.. หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร ..แสดงเนื้อทองคำให้เห็น